CMU SDGs

CMU SDGs

ศูนย์บริการทางการแพทย์หริภุญไชย พัฒนาองค์ความรู้สู่ความเป็นเลิศที่ยั่งยืน

จำนวนผู้เข้าชม : 2228 | 29 ก.ย. 2564
SDGs:
3 10 11 17


      ถึงแม้ลำพูนจะเป็น “เมืองเล็ก” ที่มีขนาดของพื้นที่เล็กที่สุดในภาคเหนือ แต่เมื่อมองลึกเข้าไป ในความเล็กของลำพูน จะพบความอลังการของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่แทรกตัวอยู่ทั่วทุกมุมเมืองของ “นครหริภุญไชย” เมืองประวัติศาสตร์ที่มีอายุเก่าแก่กว่าหนึ่งพันสามร้อยปี

      ไม่เพียงเท่านั้น จังหวัดเล็ก ๆ นี้ยังมีศักยภาพโดดเด่นที่จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางความเจริญของภาคเหนือ และอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หรือพื้นที่สี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ได้แก่ ศักยภาพทางการท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และวิถีชีวิต เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องหัตถกรรมทอผ้า ขณะเดียวกันก็เป็นฐานการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่มีโรงงานกว่า 900 โรง และเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญของภาคเหนือ ได้แก่ ลำไยพันธุ์พื้นเมืองต่าง ๆ


      ลำพูนอยู่ห่างจากจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 35 กิโลเมตร ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลกันมากนัก ทำให้ เป็นเมืองที่สามารถรองรับการขยายตัวของเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในด้านการแพทย์ หลังจาก ที่เชียงใหม่ได้รับการผลักดันให้เป็น ศูนย์กลางทางการแพทย์นานาชาติ (Chiang Mai Medical and Health Hub) เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ด้วยความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของเชียงใหม่ ตลอดจนภูมิประเทศ วัฒนธรรม และองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพที่สั่งสมมายาวนานของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นจุดแข็งที่ทำให้เชียงใหม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มชาวต่างชาติ ผู้มีกำลังซื้อสูง ที่ต้องการเข้ามารับบริการทางการแพทย์ระดับพรีเมียม รวมทั้งพักอาศัยในระยะยาว และเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย

     อีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ เชียงใหม่จะมีศูนย์บริการสุขภาพและบริการสาธารณสุข (Medical Hub) ขนาด 450 เตียง ซึ่งมีความพร้อมในการให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางระดับสูง ดูแลผู้ป่วยโรคซับซ้อน ตลอดจนเป็นศูนย์กลางการผลิตบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และศูนย์กลางการวิจัยทางการแพทย์ ซึ่งเมื่อสร้างแล้วเสร็จ ศูนย์บริการสุขภาพฯ ดังกล่าว จะยกระดับให้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ ที่ได้รับความสนใจจากนานาชาติอย่างแน่นอน

     ขณะเดียวกัน ภารกิจสำคัญอีกประการหนึ่งของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็คือ การดำเนินการของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หรือโรงพยาบาลสวนดอก ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐ ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ให้บริการด้านการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนในพื้นที่เขต 17 จังหวัดภาคเหนือ และประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง อีกทั้งยังเป็นโรงเรียนแพทย์ที่ผลิตบัณฑิตปีละ 250 คน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขยายงานทางด้านวิชาการออกไป เพื่อพัฒนาทักษะของบุคลากรทางการแพทย์ และรองรับความเปลี่ยนแปลง ที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง “ศูนย์บริการทางการแพทย์ หริภุญไชย” ขึ้นที่ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

โรงพยาบาลแห่งใหม่ของลำพูน
เพื่อขยายโอกาสในการดูแลรักษาผู้ป่วย

      ในพื้นที่ตำบลศรีบัวบาน จังหวัดลำพูน ส่วนหนึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ธิ-แม่ตีบ- แม่สาร ซึ่งต่อมากลายเป็นป่าเสื่อมโทรม กรมป่าไม้จึงได้อนุญาตให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เข้าไปใช้ประโยชน์ ในการขยายงานทางวิชาการของมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ พ.ศ. 2535 และหลังจากนั้น จึงได้มีการจัดตั้ง ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “หริภุญไชย” จังหวัดลำพูนขึ้น เพื่อสนับสนุนกิจกรรมสำหรับการ จัดอบรม ออกค่ายกิจกรรม การจัดการเรียนการสอน และการค้นคว้าวิจัยของส่วนงานวิชาการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย

      ด้วยพื้นที่กว้างขวางกว่า 4,000 ไร่ ของศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “หริภุญไชย” ที่นี่จึงเหมาะสมที่จะเป็นที่ตั้งของศูนย์บริการทางการแพทย์ หริภุญไชย โรงพยาบาลแห่งใหม่ของจังหวัดลำพูน ดังที่ ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวถึงความเป็นมาของการตั้งศูนย์บริการทางการแพทย์ หริภุญไชย ที่จังหวัดลำพูนว่า โครงการนี้ นอกจากจะเป็นประโยชน์ในการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยแล้ว ยังเป็นการพัฒนาพื้นที่เพื่อขยายงานด้านวิชาการของมหาวิทยาลัยอีกด้วย

      “ศูนย์บริการสุขภาพที่หริภุญไชย เป็นโครงการที่มาพร้อมกับโครงการ Medical Hub เพื่อสร้างศูนย์บริการสุขภาพการแพทย์ ซึ่งท่านอธิการบดี ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต ท่านก็มองว่าเรามีพื้นที่การศึกษาของเราที่ลำพูนอยู่แล้ว ถ้าเราขยายตรงนี้ไปที่ลำพูนด้วย ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่บริเวณนั้น และเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์ แทนที่จะอยู่เฉพาะในเชียงใหม่ แต่ที่ลำพูนอาจจะมีความหลากหลายมากกว่า เพราะฉะนั้น จึงคิดว่าเหมาะที่จะใช้พื้นที่ตรงนั้นสร้างเป็นโรงพยาบาลขนาด 228 เตียง ดูแลผู้ป่วยทั่วไป และเป็นโรงพยาบาลที่เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลสวนดอก คนไข้ตรวจที่ลำพูน และสามารถส่งต่อมาที่สวนดอกได้โดยใช้ระบบเชื่อมโยงกัน นอกจากจะช่วยขยายบริการให้กับพื้นที่ในแถบนั้นแล้ว ก็ยังเพิ่มโอกาสในการรักษาขั้นสูง หรือระดับที่ยาก ๆ สามารถส่งต่อเข้ามาที่สวนดอกได้เลย”

ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

     การตั้งโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่จังหวัดลำพูนนี้ นับว่าสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่มีการสำรวจพบว่า จังหวัดลำพูนมีแนวโน้มจะมีประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้น และจำเป็นต้องวางแผนเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เริ่มตั้งแต่เตรียมความพร้อมให้คนหนุ่มสาวก้าวไปเป็นผู้สูงวัยอย่างมีคุณภาพ (Active Aging) และเตรียมระบบบริการสุขภาพที่รองรับปัญหาโรคเรื้อรัง และโรคที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ เช่น โรคเบาหวาน หัวใจ และความดันโลหิตสูง เป็นต้น โดยโรงพยาบาลแห่งนี้จะให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนชาวจังหวัดลำพูนและจังหวัดใกล้เคียง เป็นการขยายโอกาสในการดูแลรักษาผู้ป่วย และลดภาระของผู้ป่วยในการเดินทางมารักษาตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วย

พัฒนาทักษะบุคลากรทางการแพทย์
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสังคม

      ด้วยผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมในปัจจุบัน เช่น วิกฤติเศรษฐกิจและการเงินของโลก หรือการที่ประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ใน พ.ศ. 2568 ทำให้หลักสูตรของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในปัจจุบัน มุ่งเน้นไปที่การผลิตบัณฑิตแพทย์ที่ตอบโจทย์ ต่อความต้องการของสังคม โดยจัดการศึกษาที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการตามมาตรฐานสากล เพื่อรองรับ การขยายตัว และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยเฉพาะการเปิดประชาคมอาเซียน ขณะเดียวกันก็ยังคงสนับสนุนงานวิจัยที่สอดคล้องกับปัญหาสุขภาพท้องถิ่น และปัญหาสิ่งแวดล้อมของภาคเหนือตอนบนด้วย

     ด้วยเหตุนี้ ศูนย์บริการทางการแพทย์ หริภุญไชย จึงเป็นพื้นที่ที่เอื้อต่อการเป็นศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาทักษะของบุคลากรทางการแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตามภารกิจดังกล่าวข้างต้น เพื่อให้แพทย์ได้ศึกษาโรคในท้องถิ่น นำไปสู่องค์ความรู้ที่หลากหลาย และสามารถตอบสนองต่อความต้องการในพื้นที่ได้ ดังที่ ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์พงษ์รักษ์ ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า

      “เราต้องการผลิตแพทย์ที่มีความรู้ที่หลากหลาย ตอบสนองต่อความต้องการในพื้นที่ คือไม่ใช่แพทย์ ที่เรียนแต่เฉพาะโรคยาก ๆ แต่โรคที่เกิดขึ้นในพื้นที่ท้องถิ่นก็อาจจะไม่รู้ แต่เมื่อมาอยู่ที่ศูนย์บริการ ทางการแพทย์ หริภุญไชย นักศึกษาแพทย์ก็จะได้เจอเคสทั่ว ๆ ไปเพิ่มมากขึ้น”

      ศูนย์บริการทางการแพทย์ หริภุญไชย ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 12 ไร่ ประกอบด้วยอาคารขนาด 4 ชั้น จำนวน 4 อาคาร สามารถรองรับผู้ป่วยได้มากกว่า 200 เตียง ได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม และกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมที่สวยงามของจังหวัดลำพูน ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และเมื่อแล้วเสร็จ ศูนย์บริการทางการแพทย์ หริภุญไชย จะเป็นโรงพยาบาลที่จะสร้างเสริมสุขภาพให้แก่ประชาชนชาวลำพูน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการให้บริการสุขภาพ โดยเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง และตอบโจทย์ความต้องการของสังคม เพื่อบรรลุถึงวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่รับผิดชอบต่อสังคม และพัฒนาสู่ความเป็นเลิศที่ยั่งยืนในอนาค

แกลลอรี่
ที่อยู่
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 239 ถนนห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200
สอบถาม

โทรศัพท์ : +66 5394 1300
โทรสาร : +66 5321 7143

Social