ผลงานวิจัยจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่อง Prevalence and genetic characterization of porcine circovirus type 2, 3 and 4 in the upper Northern region of Thailand ได้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ Veterinary Research Communications (Published: 10 June 2025)

CMU | 15 ก.ค. 2568

SDGs:

7 17

หนึ่งในผลงานวิจัยจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่อง Prevalence and genetic characterization of porcine circovirus type 2, 3 and 4 in the upper Northern region of Thailand ได้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ Veterinary Research Communications (Published: 10 June 2025) ซึ่งอยู่ในฐานข้อมูล ISI Quartile 2 (Journal Impact factor 2.0), SJR Quartile 1 และ Scopus Quartile 2

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://link.springer.com/article/10.1007/s11259-025-10786-w

งานวิจัยเรื่อง Prevalence and genetic characterization of porcine circovirus type 2, 3 and 4 in the upper Northern region of Thailand มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาโรคจากเชื้อไวรัสพอร์ซีนเซอร์โคไวรัส (PCV) โดยเฉพาะ PCV2 และ PCV3 ยังคงเป็นปัญหาสำคัญในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกร งานวิจัยนี้ศึกษาการพบและความหลากหลายทางพันธุกรรมของ PCV2, PCV3 และ PCV4 ในสุกรขุนจาก 42 ฟาร์มในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง พบว่า PCV2 พบใน 22.73% และ PCV3 ใน 4.29% ของตัวอย่าง โดยมีการติดเชื้อร่วมกัน 2.78% ไม่พบ PCV4 จากการวิเคราะห์พันธุกรรม พบว่า PCV2 ที่ตรวจพบทั้งหมดเป็นสายพันธุ์ PCV2d และ PCV3 แบ่งเป็นกลุ่ม 3a และ 3b ซึ่งมีลักษณะเฉพาะในแต่ละพื้นที่ข้อมูลนี้สามารถใช้ในการวางแผนควบคุมโรคในฟาร์มสุกร โดยเฉพาะการใช้วัคซีนที่เหมาะสมกับสายพันธุ์ที่ระบาด เช่น PCV2d รวมถึงเน้นย้ำความจำเป็นในการเฝ้าระวังและพัฒนาวัคซีนสำหรับ PCV3 ซึ่งยังไม่มีใช้ในเชิงพาณิชย์ในปัจจุบัน

SDGs:

เป้าหมาย 17 ด้าน ของการพัฒนาที่ยั่งยืน

ที่อยู่

สอบถาม

อีเมล์

Social