รถม่วง มช. เป็นชื่อเรียกรถขนส่งมวลชนภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเริ่มให้บริการในปี พ.ศ. 2546 ในรูปแบบรถพลังงานไฟฟ้า (EV) ในรูปแบบเปิดโล่ง (Open-Air) จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2564 ได้เปลี่ยนมาใช้รถรุ่นใหม่ เปลี่ยนรูปแบบรถใหม่หมด เป็นห้องโดยสารแบบปิด โดยมีหน้าต่างที่เปิด - ปิดได้ และภายในมีพัดลมไว้ให้บริการ สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 16 คน
(รูปรถม่วงรุ่นเก่า)
(รถม่วงรุ่นใหม่)
และเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับนักศึกษาและบุคลากรที่ใช้บริการรถม่วง และตอบสนองนโยบายการเป็น Smart City เราสามารถติดตามตำแหน่งรถ เส้นทางเดินรถแต่ละสาย และจำนวนผู้โดยสารในรถแต่ละคันได้จากแอปพลิเคชัน CMU MOBILE และเว็บไซต์ของ SCMC
ด้านหน้ามีป้าย LED บอกสายรถแต่ละคัน มองเห็นได้ง่ายแม้ในเวลากลางคืน ด้านหลังมีจอ LED สำหรับประชาสัมพันธ์ข่าวสารและกิจกรรมของมหาวิทยาลัย
ภายในรถมีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิดที่มองเห็นผู้โดยสารทุกที่นั่ง รวมถึงภาพจากด้านหน้าและด้านหลังของรถ โดยมีจอแสดงภาพให้พนักงานขับรถดูได้ตลอดเวลาเพื่อเพิ่มความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีถังดับเพลิงและค้อนทุบกระจกเตรียมไว้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินด้วย
นอกจากรูปแบบรถทั่วไปแล้ว ยังมีรถที่ดัดแปลงและให้บริการสำหรับผู้พิการ หรือผู้ที่นั่งรถเข็นโดยเฉพาะ ทำให้ไม่ว่าใคร ก็สามารถใช้บริการรถม่วง มช. ในการเดินทางภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้
สำหรับการเดินทางระหว่างวิทยาเขต อย่างวิทยาเขตแม่เหียะ (คณะอุตสาหกรรมเกษตร, คณะสัตวแพทย์, อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ) และวิทยาเขตสวนดอก (โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และคณะสายสุขภาพ) จะใช้รถมินิบัส 20 ที่นั่ง และรถตู้ไว้รับ-ส่งระหว่างวิทยาเขต ซึ่งรถที่ให้บริการหลายๆคัน ได้มีการเปลี่ยนแหล่งพลังงานเป็นก๊าซ CBG ที่เกิดจากการนำ Biogas จากขยะภายในมหาวิทยาลัยและพื้นที่ ต.สุเทพ ที่ดำเนินงานโดยศูนย์จัดการชีวมวล ภายในวิทยาเขตแม่เหียะ ทำให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
(ศูนย์จัดการชีวมวล)
สำหรับการให้บริการของรถม่วง มช. มีให้บริการทั้งหมด 11 สาย เริ่มให้บริการตั้งแต่ช่วง 7:00 น. ถึงประมาณ 21:00 น. โดยปรับความถี่ในการวิ่งในแต่ละช่วงของแต่ละปี และจำนวนรถที่ให้บริการจะถี่ขึ้นในช่วงที่มีการเดินทางของนักศึกษาเป็นจำนวนมาก อย่างช่วงเช้า, ช่วงพักเที่ยง และช่วงเย็นหลังเลิกเรียน
ด้วยการดำเนินงานในด้านการเดินทางด้วยรถม่วง มช. ทำให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับรางวัล “ชนะเลิศ” Smart City Solution Award 2023 ในหัวข้อ “การเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ” จากการนำนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการภายในมหาวิทยาลัย รวมถึงระบบกล้อง AI, Machine Learning ในการบริหารจัดการ โดยหน่วยงาน SCMC ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาสู่การเป็นมหาวิทยาลัยอัจฉริยะ
(ได้รับรางวัล “ชนะเลิศ” Smart City Solution Award 2023)
การเดินทางด้วยยานพาหนะพลังงานสะอาดภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไม่ได้มีแค่รถม่วง มช. เท่านั้น แต่ยังมีบริการจักรยานเช่า anywheel ที่มีจุดให้บริการรถ กระจายอยู่ทั่วมหาวิทยาลัย รวมถึงมีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ของ elexa ตั้งอยู่ที่วิทยาเขตแม่เหียะ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ให้ความสำคัญกับการเดินทางในรูปแบบขนส่งมวลชน โดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในมหาวิทยาลัย ให้เกิดความสะดวกในการใช้บริการรถขนส่งมวลชน รวมทั้งมีจุดให้บริการจักรยาน สำหรับนักศึกษา บุคลากร และนักท่องเที่ยว ภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ช่วยส่งเสริมการพัฒนาไปสู่ Smart City และการลดการปล่อยคาร์บอน ขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs 11 การเป็นเมืองและชุมชนที่น่าอยู่
SDGs 11 ทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ มีความครอบคลุม ปลอดภัย ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง และยั่งยืน
Source: